ชวนคิด
- ตลาดยาในร้านขายยามีขนาด 35,000 ล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 10% แบ่งเป็น ร้านขายยาทั่วไป 90% และร้านขายยาที่มีหลายสาขา หรือเชนดรักสโตร์ (chain drug store) 10% ปัจจุบันมีร้านขายยาอยู่ประมาณ 20,000 ร้าน
- ธุรกิจร้านขายยายังสามารถเติบโตได้อีกมาก เป็นธุรกิจที่กำไรไม่สูงแต่มีความยั่งยืน ร้านยาเดี่ยวและร้านยาเครือข่ายจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน โดยร้านยาเดี่ยวเน้นลงชุมชน ในขณะที่ร้านยาเครือข่ายจะเข้าถึงทำเลการค้าดีๆ ได้มากกว่า ทั้งนี้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าจากทำเล ความสะดวกและความคุ้นชินกับเภสัชกรเป็นประเด็นสำคัญ
- จำนวนตัวเลขสมาชิกของร้านเป็นประเด็นสำคัญต่อความยั่งยืนเพราะสะท้อนถึงโอกาสกลับมาซื้อซ้ำ ฟาสซิโนบอกให้ทราบว่าร้านมีสมาชิก 6 แสนรายจากจำนวน 111 ร้าน ซึ่งหมายถึงหนึ่งร้านของฟาสซิโนมีสมาชิก 5 พันคนเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย
- ความครบครันของรายการยาก็มีความจำเป็นเช่นกัน ดั่งในตัวข่าว ผู้บริหารฟาสซิโนกล่าวว่ามีมากถึง 10,000 รายการ ในขณะที่ร้านยาเดี่ยวทั่วไปมักจะมีรายการสินค้าประมาณ 700 – 1,500 รายการเท่านั้น อันนี้หมายถึงถ้าคนไข้เดินเข้ามาที่ร้านแล้วหายาที่นี่ไม่เจอ ก็จะหาที่อื่นไม่เจอแน่นอน ส่วนร้านยาเดี่ยวถึงแม้จะมีรายการสู้ร้านใหญ่ๆ เช่นนี้ไม่ได้ แต่ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์กับยี่ปั๊วหรือผู้จัดจำหน่ายใกล้เคียงได้เพื่อที่จะจัดหายากลับมาให้คนไข้อีกครั้งในเวลาที่รวดเร็ว
- การหาเภสัชกรให้อยู่ดำเนินการที่ร้านอย่างเพียงพอยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการทำธุรกิจร้านยาให้ยั่งยืน แม้แต่ฟาสิโนก็ยังมีข้อเสนอพิเศษเพื่อจูงใจให้เภสัชกรอยู่ร้าน หรือ สามารถซื้อเฟรนไชน์ได้ในราคาพิเศษ